• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ออโตอิมมูน-โรคภูมิแพ้ตัวเอง

ออโตอิมมูน-โรคภูมิแพ้ตัวเอง


“ยืนยันจากนายแพทย์พิศิษฐ์ จิรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราชว่า อาการป่วยของพุ่มพวง คือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง ถ้าหมั่นมาหาหมอรักษา ชีวิตเธอก็คงยังไม่ตาย แต่เพราะการศึกษาที่น้อยไม่รู้หนังสือ ทำให้เธอหันไปพึ่งพาไสยศาสตร์ ขับไล่ภูตผีที่ไม่มีตัวตน สุดท้ายก็เสียไปอย่างง่าย”

นี่คือข้อความตอนหนึ่งในคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” หน้า 4 ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 25 มิถุนายน 2535 ข่าวการถึงแก่กรรมของราชินีลูกทุ่งไทย ท่านที่ซึ่งดังขึ้นแทรกข่าวเหตุการณ์พฤษภาทมิฬตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้ทำให้ผู้คนต่างพากันสงสัยว่าเจ้าโรคประหลาดนี้มันเป็นโรคอะไรกันแน่ ถึงได้ร้ายกาจปานนี้

ก่อนอื่นคงต้องขอพูดจาเกี่ยวกับคำว่า “โรคแพ้ภูมิ” หรือ “โรคภูมิแพ้” เสียก่อน ผู้เขียนขอใช้คำหลังแทน เพราะในพจนานุกรมฉบับเฉลิมพระเกียรติ พ.ศ. 2530 เก็บคำนี้ไว้โดยให้ความหมายว่า “ภูมิแพ้ น. สภาพที่ร่างกายมีปฏิกิริยาผิดปกติต่อสิ่งที่เข้าสู่ร่างกาย” โดยธรรมชาติ ถ้าหากมีสิ่งแปลกปลอม (เช่น เชื้อโรค สารเคมี) เข้าไปในร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันหรือภูมิต้านทาน ซึ่งเป็นระบบป้องกันภัยจะสร้างกลไกในการต่อต้านมิให้สิ่งแปลกปลอมทำอันตรายต่อร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันนี้เป็นกลไกที่สลับซับซ้อน โดยมีเม็ดเลือดขาวเป็นพระเอกชูโรง เม็ดเลือดขาวซึ่งมีอยู่หลายชนิดจะทำหน้าที่เป็นเหมือนกองทหาร (รั้วของชาติ) ที่คอยป้องกันมิให้ศัตรู (สิ่งแปลกปลอม) เข้ามาทำร้ายประชาชน (อวัยวะในร่างกาย)

เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมบุกรุกเข้ามาในร่างกาย เม็ดเลือดขาวบางชนิดจะทำหน้าที่ในการสร้างสารพิษชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “แอนติบอดี” (antibody) ขึ้นทำลายสิ่งแปลกปลอม เม็ดเลือดขาวบางชนิดก็เข้าประจัญบานกับสิ่งแปลกปลอมโดยตรง (เช่น จับเชื้อโรคกิน) ถ้าเม็ดเลือดขาวสู้ชนะ ก็ไม่เป็นโรค ถ้าแพ้ ก็กลายเป็นโรค แต่ในบางคนบางระบบภูมิคุ้มกันเกิดวิปริตขึ้นมา ซึ่งมีความแปรปรวนไปได้ 3 ลักษณะ

ลักษณะแรก ก็คือ ภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเสื่อมสลาย เช่น การติดเชื้อเอดส์ทำให้ระบบป้องกันภัยถูกทำลายโดยสิ้นเชิง (เปรียบเหมือนกองทหารถูกก่อวินาศกรรมจนกลายเป็นอัมพาต) เชื้อโรคต่างๆ ก็จะเข้ามารุมเร้า จนร่างกายสูญสลาย

ลักษณะที่สอง ก็คือ ภูมิคุ้มกันมีความไวเกิน (sensitive) ต่อสิ่งภายนอก พอถูกสิ่งแปลกปลอม (เช่น ฝุ่น ขนสัตว์ ละอองเกสร เชื้อรา ฯลฯ) ก็มีปฏิกิริยาตอบโต้ทันที (เปรียบเหมือนกองทหารที่ประสาทไว พอเห็นอะไรเคลื่อนไหวหน่อยก็ยิงปืนเข้าใส่) ทำให้กลายเป็น “โรคภูมิแพ้” ซึ่งมีอยู่หลายชนิด เช่น โรคลมพิษ ผื่นคัน โรคหวัดภูมิแพ้ โรคหืด เป็นต้น

ลักษณะที่สาม ก็คือ ภูมิคุ้มกันมีความไวต่ออวัยวะของตัวเอง ทำให้สร้างภูมิต่อต้านต่อร่างกายตัวเอง เรียกว่า ออโตอิมมูน (autoimmune ออโต แปลว่า ตัวเอง อิมมูน แปลว่า ภูมิต้านทาน) เรียกแบบชาวบ้านๆ ว่า “โรคภูมิแพ้ตัวเอง”

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการวิปริตแบบนี้ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด โรคออโตอิมมูนหรือโรคภูมิแพ้ตัวเองนี้มีอยู่หลายชนิดขึ้นกับลักษณะการเกิดโรค อวัยวะที่ถูกทำลาย และอาการแสดงต่างๆ บางชนิดจะทำลายเพียงเฉพาะอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งเท่านั้น บางชนิดจะทำลายอวัยวะหลายๆ ระบบพร้อมกัน จึงมีชื่อโรคที่เรียกต่างๆ กันไป โรคที่คุณพุ่มพวงเป็น ก็เป็นโรคภูมิแพ้ตัวเองชนิดหนึ่ง ที่มีผลต่ออวัยวะหลายระบบ (มีชื่อย่อว่า “โรคเอไอแอลดี” (AILD) ไม่ใช่โรคเอสแอลอี (SLE) ดังที่เข้าใจกัน) โรคภูมิแพ้ตัวเองชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่ล้วนแต่รักษาได้ หรือไม่ก็สามารถประทังชีวิตให้ยาวนานได้ มีเพียงส่วนน้อยที่จะเป็นรุนแรงถึงตายในเวลาสั้นๆ

กล่าวเปรียบเทียบง่ายๆ ได้ว่า โรคออโตอิมมูนหรือโรคภูมิแพ้ตัวเองนี้ก็คือ “โรคพฤษภาทมิฬ” ที่กองทหารมีภูมิไวต่อประชาชน แล้วเอาประชาชนเป็นเป้ากระสุนนั่นเอง

ข้อมูลสื่อ

159-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 159
กรกฎาคม 2535
ภาษิต ประชาเวช