หวีผม เพื่อสุขภาพ
ปัจจุบันจุดมุ่งหมายในการหวีผม มักมุ่งเน้นเพื่อให้เส้นผมมีระเบียบเรียบร้อย ไม่เกะกะรุงรัง ทำให้ดูสวยงามเป็นสำคัญ ภูมิปัญญาโบราณของแพทย์จีนให้ความสำคัญเกี่ยวกับหนังศีรษะ ซึ่งเป็นเสมือนแหล่งให้อาหารกับเส้นผม การฝังเข็ม การนวด การฝึกพลังชี่กง ในการดูแลสุขภาพและรักษาโรค จะมีจุดฝังเข็มบนหนังศีรษะเกี่ยวข้องด้วยเสมอ
การหวีผมด้วยหวีที่ทำด้วยไม้ ได้ถูกพัฒนาเป็นวิธีการดูแลสุขภาพอย่างง่ายวิธีหนึ่ง กล่าวกันว่า สมัยราชวงศ์ซ่ง นักวรรณคดีชื่อ ซูตงพอ หลังตื่นนอนจะต้องหวีผม ๒๐๐-๓๐๐ ครั้ง เพื่อเป็นการกระตุ้นสมอง เพิ่มความมีชีวิตชีวา ทำให้อายุยืนยาว สมัยราชวงศ์ชิง หวู่ซ่างเซียน ได้บันทึกไว้ในหนังสือหลี่หลุนเผียนเหวิน “การหวีผมเป็นการกระจายลม ขจัดไฟออกจากร่างกาย
ความหมายและหลักการ “หวีผมเพื่อสุขภาพ”
- อุปกรณ์ หวีผมเพื่อสุขภาพจะต้องใช้หวีที่ทำด้วยไม้เท่านั้น (สมัยโบราณนิยมไม้ของต้นท้อ) ห้ามใช้หวีพลาสติก หรือหวีที่ทำด้วยโลหะ
- เวลาที่หวี
- หลังตื่นนอนตอนเช้า
- หลังตอนพักเที่ยง
- ก่อนนอนกลางคืน
- วีธีการ
- หวีจากบริเวณหน้าผากผ่านกึ่งกลางศีรษะมาที่ท้ายทอย
- เริ่มต้นใหม่ ให้หวี ๒๐-๓๐ ครั้งต่อนาที ช้าๆ แล้วค่อยเพิ่มความถี่ เร็วขึ้นกำลังที่ใช้ปานกลางพอเหมาะ ไม่ขูดรุนแรงจนผิวหนังถลอก
- หวีเพื่อการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพวันละ ๑ ครั้ง ครั้งละ ๓-๕ นาที
- หวีเพื่อการรักษาโรค วันละ ๒-๓ ครั้ง ครั้งละ ๕-๑๐ นาที เทคนิคแรงกว่าปกติเล็กน้อย
- ถ้าไม่มีหวีใช้นิ้วแทนหวี
ความสำคัญ : ส่วนศีรษะอุดมสมบูรณ์ด้วยเลือดเส้นประสาทมาหล่อเลี้ยงมีมากมาย มีจุดฝังเข็มจำนวนมาก เป็นที่บรรจบกันของเส้นลมปราณหยางจำนวนมาก มีความสัมพันธ์กับการไหลเวียนเลือดดในสมองไม่ว่าจะเป็นสมองส่วนเปลือก สมองส่วนกลาง สมองเล็ก ต่อมใต้สมอง เป็นต้น ซึ่งควบคุมส่วนต่างๆ ของร่างกาย
การกระตุ้นผิวหนังศีรษะโดยการหวีผม ก็เหมือนการนวดหรือการฝังเข็มจะทำให้ประสาทส่วนปลาย หรือจุดฝังเข็มถูกกระตุ้น ทำให้สมองได้รับการกระตุ้น เส้นลมปราณหยางต่างๆ ก็ถูกกระตุ้น ทำให้มีการปรับสมดุลการไหลเวียนบริเวณผิวหนังกล้ามเนื้อและภายในสมอง มีการผ่อนคลายของระบบประสาทที่ศีรษะและทั่วร่างกาย ลดความตึงเครียด
ข้อควรระวังในการหวีเพื่อสุขภาพ
๑. การรักษาหรือเสริมสร้างสุขภาพโดยการหวีผม เป็นวิธีที่ได้ผลช้า ค่อยเป็นค่อยไป ไม่เห็นผลทันที ผู้ที่ใช้วิธีการนี้ ไม่ควรใจร้อน ต้องมีความอดทน
๒. หวีที่ใช้ต้องเป็นหวีไม้ ไม่ใช่หวีที่ทำด้วยพลาสติก หรือโลหะ
๓. เทคนิคเริ่มต้นต้องเบาก่อน และค่อยๆเพิ่มความแรงพอเหมาะ ป้องกันการทำให้ผิวหนังถลอก
๔. ควรใช้วิธีกับโรคที่เกี่ยวข้องกับส่วนศีรษะเป็นหลัก (โรคที่เกี่ยวกับความเครียด การไหลเวียนเลือดไปสมองไม่ดี) ถ้ามีแผลหรือการอักเสบบริเวณศีรษะ ให้หยุดการรักษาด้วยวิธีนี้ก่อน จนกว่าแผลหรือการอักเสบหายเรียบร้อยแล้ว
๕. การรักษาโรคด้วยวิธีนี้ ควรควบคู่กับการรักษาโดยแพทย์ ซึ่งอาจร่วมกับการรักษาด้วยยาเคมี ยาสมุนไพร การนวด การฝังเข็ม การจี้จุด เป็นต้น เพื่อให้ผลการรักษาดีขึ้นและสอดคล้องกับสาเหตุของโรค
สรุป
การหวีผมเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตประจำวัน การรักษาหรือดูแลสุขภาพด้วยการหวีผมเป็นสิ่งที่คนทั่วไปปฏิบัติได้ง่าย การยึดกุมวิธีการหวีผมเพื่อสุขภาพที่ถูกต้อง เป็นวิธีที่สามารถพึ่งตนเอง การปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จะมีส่วนช่วยเสริมการไหลเวียนเลือดบริเวณศีรษะ ลดความเครียดทำให้จิตใจเบิกบาน ป้องกันและรักษาอาการปวดศีรษะ โดยเฉพาะผู้ใช้แรงงานสมองที่ต้องใช้ความคิดมาก เหมาะสำหรับวิธีนี้มาก ทำให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น ลดภาวะความหงุดหงิดทางอารมณ์ได้ดีครับ
- อ่าน 15,580 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้